ตะลิงปลิง : ความสุขที่คุณเด็ดได้ |
ความสุข คำสั้น ๆ ที่ใครต่อใครต่างก็ ต้องการจะแสวงหา และความสุขของแต่ละคน ก็ล้วนแล้วแต่แตกต่างกันไป บางคน แค่หลับสนิทซักตื่น มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสะตังค์ใช้แบบ ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน หรือ ได้ท่องเที่ยวไปในดินแดนที่ปรารถนา ก็ถือว่าสุขแล้ว แต่สำหรับฉัน
|
|
|
|
|
|
|
ความสุข
คำสั้น ๆ ที่ใครต่อใครต่างก็ ต้องการจะแสวงหา และความสุขของแต่ละคน ก็ล้วนแล้วแต่แตกต่างกันไป
บางคน แค่หลับสนิทซักตื่น มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสะตังค์ใช้แบบ ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน หรือ ได้ท่องเที่ยวไปในดินแดนที่ปรารถนา
ก็ถือว่าสุขแล้ว แต่สำหรับฉัน
ความไม่มีโรค คือ ลาภอันประเสริฐ
นี่แหละสุขจริงๆ........
|
|
|
|
|
|
อาหาร ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะเป็นตัวชี้วัดถึง
ความแข็งแรงของร่างกาย หากทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ๆ
ก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่อง ท้องเสีย แต่ถ้าวัน ๆ นั่งดูดแต่อมยิ้ม ไม่นานหรอกค่ะ
ฟันคงร่วงหมดปากแน่ เห็นไหมละคะว่า อาหารสำคัญต่อสุขภาพแค่ไหน ?
และเมื่อเอ่ยกันถึงเรื่อง ปากท้องเช่นนี้แล้วเนี่ย มันก็ชวนให้นึกถึง
รสชาติแบบสุดโต่งของอาหารใต้ที่เผ็ดก็เผ็ดสุด ๆ หวานก็หวานเจี๊ยบ
และเปรี้ยวก็จี๊ดจ๊าดสุด ๆ เช่นกัน แต่นอกจากของคาวหวานแล้ว ผลไม้
นับเป็นอีกเมนูเด็ดที่ใครหลายคนมักพูดถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงาะ มังคุด ทุเรียน
และที่ขาดไม่ได้คือ ลองกองลูกโต ๆ รสหวานฉ่ำ ทว่า ยังมีพืช ท้องถิ่นอีกประเภทหนึ่ง
ที่จะเรียกว่าผักก็ได้ ผลไม้ก็ดี ซึ่งมีความวิเศษไม่แพ้ ผักผลไม้ใด ๆ เลย
แต่ถ้าไม่รวมคนในท้องถิ่นแล้วละก็ น้อยคนนัก จะรู้จักมัน
"ตะลิงปลิง"
ตะลิงปลิง (Averrhoa bilimbi Linn) หรือ ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในนาม
มูงมัง บลีมิง หรือ หลิงปลิงนี้ เป็นที่รู้จักกันในนามพืชประจำถิ่น ในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และพบบ้างในบราซิล ตะลิงปลิง จัดเป็นพืชในตระกูล AVERRHOACEAE
โดยเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูงประมาณ 6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขา มากตามกิ่งจะปกคลุมด้วยขนนุ่ม ๆ
เปลือกสีชมพู ผิวเรียบ ใบเป็นใบประกอบ ก้านใบหนึ่งประกอบด้วยใบย่อย 11-37 ใบ ซึ่งแต่ละใบ
จะมีรูปร่างเป็นรูปหอก ใบมีสีเขียวอ่อนและมีขนนุ่มปกคลุมอยู่ ส่วนดอกเป็นดอกช่อ
ออกตามลำต้นและกิ่งก้าน แต่ละดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ
กลีบดอกสีแดงเข้มกลีบเลี้ยงสีเขียวอมชมพูดอกมีกลิ่นหอม
เกสรตรงกลางเป็นสีเขียวอ่อน ผลเป็นช่อรูปร่างยาวรี ยาว 2-3.5 นิ้ว กว้าง 1 นิ้ว
ผิวของลูกอ่อนสีเขียว รสเปรี้ยวจัดเมื่อแก่กลายเป็นสีเหลือง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Endrophine
|
|
|
|
|
|
|
|
หลายคนอาจสงสัยว่า แล้ว ตะลิงปลิง ที่ว่า เมื่อทานไปแล้ว จะดีอย่างไร ?
ดีแน่นอนค่ะ เพราะแค่รสชาติอันเปรี้ยวจี๊ด ก็รู้แล้วว่า ต้องอุดมไปด้วยวิตามินซี
นอกจากนี้ ยังเป็นขุมทรัพย์ชั้นเยี่ยม ของแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี 1 บี 2
ไนอะซิน และโพแทสเซียมออกซาเลตด้วย
|
|
|
|
|
|
และหากต้องการปรุงอาหารให้มีรสเปรี้ยวแบบธรรมชาติ ธรรมชาติ
แนะนำว่า ตะลิงปลิง ก็ให้รสอร่อยไม่แพ้มะนาวเลย ตามตำรายาแผนโบราณกล่าวไว้ว่า
ผลตะลิงปลิงสามารถนำไปใช้รักษาอาการไอ ละลายเสมหะ โรคลักปิดลักเปิด
(เลือดออกตามไรฟัน) ฟอกโลหิตได้ โดยนำผลตะลิงปลิงสดไปล้างให้สะอาด
แล้วนำไปคั้นเอาแต่น้ำมาจิบทีละนิด ซึ่งน้ำที่ได้จะเปรี้ยวมาก ดังนั้นอาจต้องผสมน้ำต้มสุก
หรือใส่เกลือและน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อปรุงแต่งเป็นน้ำผลไม้ ใช้ดื่มได้ ตลอด
ส่วนรากของตะลิงปลิง ใช้รักษาอาการร้อนใน แก้กระหายน้ำ
ด้วยการนำรากมาล้างให้สะอาดแล้วต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาดื่มจนกว่าอาการจะดีขึ้น
สำหรับใบใช้ลดอาการคัน แก้คางทูม รักษาอาการไอ ละลายเสมหะ โดยให้นำ
ใบตะลิงปลิงสดหนึ่งกำมือ มาล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียดผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อย
นำไปพอกบริเวณคางที่บวม โดยพอกวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ซึ่งต้องเปลี่ยนยาใหม่ทุกครั้ง
หากต้องการลดอาการคัน ให้นำใบมาล้างให้สะอาด แล้วตำโดยผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อย
จากนั้นนำยาที่ได้ไปทาบริเวณที่มีอาการคัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น
สำหรับใครที่อยากจะลองปรุงอาหารด้วยการใช้บริการตะลิงปลิง
แต่ไม่ทราบว่าจะใช้กับเมนูอะไรลองนำไปใช้กับอาหาร จำพวก น้ำพริก แกงส้ม
ต้มส้ม แกงคั่วส้ม และ ต้มยำ ดูซิคะ หรือจะทำเป็นผลไม้แช่อิ่ม
และผลไม้แห้งก็ได้อร่อยไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ หลังจากรับประทานอาหารที่มีผลตะลิงปลิงแล้ว ร่างกายก็จะได้ประโยชน์
จากทั้งทางยาและยังช่วยเจริญอาหารอีกด้วย ซึ่งลูกตะลิงปลิงขนาด 100กรัม
จะให้พลังงานต่อร่างกายถึง 11กิโลแคลอรี่ อันจะประกอบด้วย
เส้นใย 0.3 กรัม
|
แคลเซี่ยม 1 มิลลิกรัม
|
ฟอสฟอรัส 6 มิลลิกรัม
|
เหล็ก 0.2 มิลลิกรัม
|
วิตามินเอ 267 IU
|
วิตามินบีหนึ่ง 0.03 มิลลิกรัม
|
วิตามินบีสอง 0.09 มิลลิกรัม
|
ไนอาซีน 0.7 มิลลิกรัม
|
วิตามินซี 2 มิลลิกรัม
|
|
เมื่อทราบว่า "ตะลิงปลิง" มีประโยชน์มากมายถึงเพียงนี้แล้วเนี่ย
มื้อต่อไปน่าจะลองเปลี่ยนมาสัมผัสรสชาติเปรี้ยว แบบใหม่ดูบ้างนะคะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Endrophine
Sources :
www.thaigoodview.com
advisor.anamai.moph.go.th
www.prc.ac.th
www.nautilus.co.th
|
|