Home บทความ Free Zone ประเพณีสงกรานต์
ประเพณีสงกรานต์
Article Index
ประเพณีสงกรานต์
หน้า #
หน้า #
หน้า #
หน้า #
All Pages

กล่าวไว้ว่า ก่อนพุทธกาล มีเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง อายุเลยวัยกลางคนแล้ว แต่ก็ยังไร้ทายาท สืบสกุล จึงสร้างความทุกข์ใจให้ตัวเองเป็นอันมาก นอกจากนี้ ข้างรั้วบ้านเศรษฐี ยังมีครอบครัวหนึ่ง หัวหน้าครอบครัว เป็นนักเลงสุรา ถ้าวันไหนร่ำสุราสุดขีด ก็จะพูดเสียงดัง แสดงวาจาเยาะเย้ยเศรษฐี สบประมาท ในความมีทรัพย์มาก แต่ไร้ทายาทสืบสมบัติเสมอ

วันหนึ่งเศรษฐีจึงถามชายผู้นั้นว่า มีความขุ่นเคืองอะไร จึงแสดงอาการเยาะเย้ย และสบประมาท เฒ่านักดื่มจึงตอบว่า " ถึงท่านมั่งมีสมบัติมากก็จริง แต่เป็นคนมีบาปกรรมท่าน จึงไม่มีบุตร ตายไปแล้ว สมบัติก็ตกเป็นของผู้อื่นหมด สู้เราไม่ได้ถึงแม้จะยากจน แต่ก็มีบุตรคอยดูแลรักษา ยามเจ็บไข้ และรักษาทรัพย์สมบัติ เมื่อเราสิ้นใจ"

นับแต่นั้นมา เศรษฐียิ่งมีความเสียใจ จึงพยายาม ไปบวงสรวงพระอาทิตย์ และพระจันทร์ เพียรพยายามตั้งจิต อธิษฐานขอบุตร ทำเช่นนี้ เป็นเวลาติดต่อกัน ถึงสามปี ก็ไม่ได้บุตรดัง ที่ตนปรารถนา จนวันหนึ่ง เป็นวันนักขัตฤกษ์สงกรานต์ ท่านเศรษฐี ก็พาข้าทาสบริวารของตน มาที่โคนต้นไทรใหญ่ ต้นหนึ่ง ที่อยู่บนฝั่งแม่น้ำ อันเป็นที่อาศัยของนกทั้งหลาย ท่านเศรษฐี ให้บริวาร ล้างข้าวสาร ด้วยน้ำสะอาด ถึง 7 ครั้ง แล้วจึงหุงข้าวสารนั้น เมื่อสุกแล้ว ยกขึ้นบูชาพระไทร เทพเหล่านั้น เกิดความสงสาร จึงขึ้นไปเฝ้า พระอินทร์ ทูลขอบุตรแก่เศรษฐี พระอินทร์ จึงบัญชา ให้เทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "ธรรมบาล" ลงมาเกิดใน ครรภ์ ของภรรยาเศรษฐี เมื่อครบกำหนด ภรรยาเศรษฐี ก็คลอดบุตรเป็นชาย เศรษฐีจึงตั้งชื่อว่า ธรรมบาลกุมาร

เพื่อตอบสนอง พระคุณเทพเทวา เศรษฐี จึงสร้างปราสาทสูง 7 ชั้น ถวายเทพต้นไทร เมื่อธรรมบาลกุมาร เจริญวัยขึ้น เป็นเด็กที่มีปัญญา เฉียบแหลม รอบรู้ และวัยเพียง 7ขวบก็เรียนจบ ไตรเพท

จนกระทั่ง "ท้าวกบิลพรหม" ซึ่งเป็นเทพองค์หนึ่ง ได้ยินกิตติศัพท์ ทางสติปัญญา อันยอดเยี่ยม ของเด็กน้อย จึงคิดทดลองภูมิปัญญาโดยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน จึงถามปัญหา 3 ข้อ ถ้ากุมารน้อย แก้ปัญหาทั้ง 3 ข้อได้ กบิลพรหม จะตัดศีรษะของตนบูชา ถ้าธรรมบาลแก้ไม่ได้ ก็จะต้องเสียหัว เพื่อยอมรับความพ่ายแพ้ ปัญหานั้นมีว่า

1. ตอนเช้าราศีคนอยู่แห่งใด

2. ตอนเที่ยงราศีของคนอยู่แห่งใด

3. ตอนค่ำราศีของคนอยู่แห่งใด

เมื่อได้ฟังปัญหาแล้ว ธรรมบาล ไม่อาจทราบคำตอบ ในทันทีได้ จึงผลัดวันตอบปัญหา ไปอีก 7 วัน ครั้นเวลาล่วงจากนั้นไป 6 วัน ธรรมบาลกุมาร ก็ยังคิดหาคำตอบ ปัญหานั้นไม่ได้ จึงหลบออกจาก ปราสาท หนีเข้าป่า และไปนอนพักเอาแรง ใต้ต้นตาล ขณะนั้นบนต้นตาล มีนกอินทรีคู่หนึ่งอาศัยอยู่ นางนกถามสามีว่า "พรุ่งนี้เราจะไปหาอาหารที่ไหน" นกสามีก็ตอบว่า "พรุ่งนี้เราไม่ต้องบินไปไกล เพราะจะได้กินเนื้อธรรมบาลกุมาร ซึ่งจะถูกท้าวกบิลพรหมตัดหัว เนื่องจากแก้ปัญหาไม่ได้" นางนกถามว่า "ปัญหานั้นว่าอย่างไร" นกสามีตอบว่า ปัญหามีอยู่ 3 ข้อ และหมายถึง

ข้อหนึ่ง ตอนเช้าราศีของมนุษย์ อยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้า ทุกๆ เช้า

ข้อสอง ตอนเที่ยงราศี คนอยู่ที่อก มนุษย์ จึงต้องเอาเครื่องหอม ประพรมที่อก

ข้อสาม ตอนค่ำราศีคนอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงต้องล้างเท้า ก่อนเข้านอน

ธรรมบาลกุมาร ได้ยินการไขปัญหา ของนกอินทรี และจำจนขึ้นใจ ทั้งนี้เพราะธรรมบาล รู้ภาษานก จึงกลับสู่ปราสาท รุ่งขึ้นเป็นวันครบกำหนด แก้ปัญหา ท้าวกบิลพรหมมาฟังคำตอบ ธรรมบาลกุมาร กล่าวแก้ปัญหา ตามที่นกอินทรี คุยกันทุกประการ ท้าวกบิลพรหม จึงเรียกธิดาทั้ง 7 ของตน อันเป็นบริจาริกา คือหญิงรับใช้ ของพระอินทร์มาพร้อมกัน แล้วบอกว่า ตนจะตัดเศียรบูชา ธรรมบาลกุมาร แต่ถ้าเอาศีรษะพ่อ วางไว้บนแผ่นดิน ก็จะลุกไหม้ไปทั้งโลก ถ้าจะโยนขึ้นไปบนอากาศ อากาศจะแห้งแล้ง ฟ้าฝนจะหายไปสิ้น ถ้าทิ้งลงไปในมหาสมุทร น้ำในมหาสมุทร จะแห้งแล้งไปเช่นกัน จึงสั่งให้นางทั้ง 7 คน เอาพานมารองรับศีรษะ แล้วจึงตัดศรีษะ ส่งให้นางทุงษธิดาคนโต นางทุงษ จึงเอาพานรับเศียรบิดา ไว้แล้วแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที จากนั้นจึงอัญเชิญ ไปไว้ในมณฑปถ้ำคันธุรลี ณ เขาไกรลาส บูชาด้วยเครื่องทิพย์ พระเวสสุกรรมก็เนรมิต โรงประดับด้วยแก้ว 7 ประการ ชื่อภควดี ให้เป็นที่ประชุมเทวดา เทวดาทั้งปวง ก็เอาเถาฉมูนวด ลงมาล้างในสระอโนดาต 7 ครั้ง แล้วก็แจกกันเสวยทุกๆ องค์ ครั้นครบ 365 วัน โลกสมมุติว่าเป็นหนึ่งปี เป็นสงกรานต์ธิดา 7 องค์ของเท้ากบิลพรหมก็ผลัดเวรกัน มาเชิญพระเศียร ของพระบิดาออกแห่ ประทักษิณ รอบเขาพระสุเมรุทุกปี แล้วจึงกลับไปเทวโลก