พิพิธภัณฑ์ เกี่ยวกับมานุษยวิทยา (Ethnographic Museum)
ตั้งอยู่บนถนน แกรนด์ ฮาหมัด (Grand Hamad Street) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งสุดท้ายในโดฮาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันอังคาร เริ่มเวลา 9โมง ถึง 12 นาฬิกา และ บ่ายสามโมงถึง หกโมงเย็น โดยจะหยุดให้บริการในวันเสาร์ สำหรับวันศุกร์ จะเปิดให้บริการแค่รอบบ่ายสามโมง ถึง หกโมงเย็นเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการเข้าชมนั้นฟรี
กอร์ อัล อูเดอิด (Khor-al-Udeid (The Inland Sea))
กอร์ อัล อูเดอิด หรือ ทะเลภายใน (ทะเลสาบ) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศและ มีภูเขาทะเลทรายที่สวยงามมากและสูงถึง 40 เมตร ในยามที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก เงาที่ทอดผ่านภูเขาทรายแต่ละลูกเป็นภาพที่น่ามองอย่างยิ่ง กอร์ อัล อูเดอิด เป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากเหล่ามนุษย์กบ นักท่องเที่ยวทั่วไป นักดูนก นักธรรมชาติ และคนอื่นๆ ที่ ต้องการจะมีส่วนร่วมในการสัมผัสความสวยงามของดินแดนทะเลทรายแห่งนี้
ป้อมปราการสำคัญ (Major Forts)
ป้อม อัลซูบารา (Al Zubara Fort)
อัล ซูบารา เป็นป้อมปราการที่มีขนาดทอดยาวถึง 105 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโดฮา และเป็น ป้อมปราการเพียงแห่งเดียวที่ยังคงหลงเหลือเค้าความรุ่งเรืองในอดีตกาลไว้ โดยได้รับการบูรณะใหม่ ซึ่งมีการระดมเหล่านักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญที่มีฝีมือมากเป็นพิเศษหลายชีวิตในการทำงานครั้งนี้ รอบๆ ตัวป้อมจะรายล้อมไปด้วยประตูใหญ่หลายบาน และ ภายในยังมีบ้านหลังเล็กของผู้เฝ้าประตูอีกด้วย
ซูบาราห์เป็นป้อมปราการที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แม้ว่ารอบๆ จะไม่มีอะไรให้สะดุดตา แต่หากย้อนไปเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ดินแดนแห่งนี้ถือว่าเป็นชุมชนหลักของประเทศเลยทีเดียว สร้างขึ้นเมื่อปี 1938 ในปี 1980 ซูบาราห์ถูกใช้เป็นฐานทัพของกองกำลังทหาร บริเวณห้องพักรอบลานป้อมหลายๆ ห้องยังมีสิ่งของต่างๆตกอยู่ ซึ่งใหญ่จะเป็นเศษหม้อและอุปกรณ์ครัว
ป้อม โดฮา (Doha Fort (Al Koot))
ป้อมโดฮา หรือ ที่รู้จักกันในนามป้อม อัลกูตประกอบไปด้วยหอคอยที่เป็นรูปทรงกลมสามแห่งและสี่เหลี่ยมอีกหนึ่งแห่ง ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยัง กลายเป็นแหล่งสะสม ภาพวาดพื้นเมือง งานจักสาน ประตูเก่าแก่และ รูปแกะสลักต่างๆ อีกมากมายซึ่งถือว่าทรงคุณค่ามาก
ในสมัยก่อนเนื่องจากยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้สร้างจึงได้ออกแบบปล่อง ทรงกรวยที่อยู่ด้านบนหลังคาขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้อากาศสามารถ ผ่านเข้ามายังตึกได้สะดวก
ตลาดนัดกลางแจ้งในตะวันออกกลางเป็นอีกภาพหนึ่งที่น่าดึงดูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ นักท่องเที่ยวชาวตะวันตก และขอบอกไว้ก่อนเลยครับว่า มันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าจริงๆ การต่อรองราคา ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปรกติและสนุกสนานไปซะแล้ว
สำหรับคนที่ต้องการจะซื้อของในตลาดอาหรับแท้ๆ ขอแนะนำตลาด วากิซุค (Waqif Souk) เพราะมันเป็นหนึ่งในตลาดอาหรับที่เยี่ยมที่สุดในกาตาร์ แต่เดิมตลาดแห่งนี้เป็นตลาดนัดวันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ สำหรับพวกพ่อค้าชาวเบดูอิน ที่มาขายเนื้อ ขนแกะ นม และ ผลิตภัณฑ์สำคัญอื่นๆ หลายทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดแห่งนี้เริ่มมีการขยายตัวขึ้น จนกลายไปเป็นแบบดั้งเดิมเหมือนในอดีต ตรอกซอกซอยที่เพิ่มมากขึ้นจนดูยุ่งเหยิง ทว่าก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ เพราะแม้จะทำให้ดูกว้างขวาง แต่ก็แบ่งสัดส่วนได้อย่างลงตัว ว่าส่วนไหนขายเนื้อ เสื้อผ้าพื้นเมือง น้ำหอม เครื่องเทศ กำยาน หรือ ผลไม้แห้ง
แม้ว่า คุณไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมาซื้ออะไรเป็นพิเศษ แต่การเดินรอบๆ ตลาดก็ถือว่าเป็น กิจกรรมและประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะคุณจะไม่มีวันลืมมันเลย คิดดูซิครับ เวลาเห็นใครเขาซื้อของแล้วต่อราคา เราเองในฐานะคนซื้อคนหนึ่งก็คงจะอยากได้ราคาที่เราพอใจที่สุดใช่ไหมครับ ฉะนั้นเวลาเห็นเขาต่อราคากันแล้วเนี่ย ผมเองก็ชอบมากเลย
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว เรื่องปากเรื่องท้อง กาตาร์ก็ไม่เป็นรองใคร อีกทั้งยังเน้นคุณค่าอาหารต่อสุขภาพด้วย ดังนั้นในแต่ละมื้อ นอกจากเนื้อย่างรสเยี่ยมที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องเทศรัสจัดจ้านแล้ว ยังมีผลไม้และผักสดๆ เคียงคู่มาด้วย ยิ่งหากเป็นมื้อค่ำ ด้วยแล้ว ผมแทบไม่อยากให้ผ่านไปเลย คิดดูซิครับ อาหารค่ำริมระเบียง คู่กับการชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เหนืออ่าว อาราเบียน สุดยอดจริงๆ ครับ
เห็นหรือยังครับว่า กาตาร์มีอะไร ๆ ที่รอเซอร์ไพร้ส์เรามากแค่ไหน คงไม่ผิดหวังแน่ครับ หากจะเพิ่มดินแดนเล็กๆ แห่งนี้ไว้ในรายการตะลอนทัวร์ของท่านในคราวต่อไป
U&K |