Home บทความ Free Zone ฮานอยกับการประชุม เอเปค 2006
ฮานอยกับการประชุม เอเปค 2006
กรุงฮานอย เมืองหลวงที่มีอายุเกือบพันปีแห่งนี้ เป็นที่ต้องตาต้องใจ ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้น หากยังรวมถึงนักลงทุนนักธุรกิจในสาขาต่างๆ เสน่ห์และโอกาสทางธุรกิจที่ยังมีอยู่ดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมหาศาลมายังเมืองนี้ สำหรับปีนี้ กรุงฮานอยได้รับเลือกให

กรุงฮานอย เป็นเมืองหลวง ของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแดง ก่อตั้งในปี พ.ศ. 1553 ปัจจุบัน นครหลวงอันเก่าแก่ ของเวียดนามแห่งนี้ จึงมีอายุเกือบหนึ่งพันปี เป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุด ในภูมิภาค มีประชากรอาศัยอยู่ กว่าสามล้านคน มากเป็นอันดับสี่ของประเทศ รองจาก โฮจิมินห์ ซิตี้ ทังห์หัว และเง่อัน

กรุงฮานอย ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 6 เมือง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ จัดการประชุมเอเปค และการประชุม ที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งปี 2006 นอกจากนี้ ยังได้รับเลือก ให้เป็นสถานที่จัดการประชุม สุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 -19 พฤจิกายน 2006 อีกด้วย

***ตารางการประชุมเอเปคที่จัดขึ้นในกรุงฮานอย***

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของฮานอย เติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูได้จาก GDP ของเมืองที่อยู่ที่ระดับ 11.1% ต่อปี สูงกว่า GDP เฉลี่ยของทั้งประเทศ โดยมีผลผลิต จากภาคอุตสาหกรรม เป็นปัจจัยหลัก ของการขยายตัวที่เกิดขึ้น

ปัจจุบัน กรุงฮานอยได้มีโครงการ พัฒนาต่างๆ ผุดขึ้นมากมาย ทั้งนี้ เพื่อรองรับ ความเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ Hanoi Metro Rail System โครงการ Lao Cai Railways Upgrade และโครงการ Hanoi Water Supply สำหรับเป้าหมาย ในอีกห้าปีข้างหน้า ที่ทางฮานอยตั้งไว้ ก็คือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลงทุน และเทคโนโลยีระดับสูง เพื่อมุ่งไปสู่ การเป็นศูนย์กลางทางการเมือง การบริหาร การศึกษา วิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ และศูนย์กลาง ด้านความสัมพันธ์ระดับนานาชาติ

สำหรับในส่วนของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ในอีกห้าปีข้างหน้านี้ ฮานอย เน้นให้ความสำคัญ กับสามภาค ได้แก่ ภาคบริการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม

มุ่งเน้นการพัฒนา ด้านการค้า การท่องเที่ยว สุขภาพ การฝึกอบรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี การเงินการธนาคาร และการประกัน ด้านการท่องเที่ยว ฮานอย มีโครงการที่จะพัฒนาเมือง ให้กลายเป็น ศูนย์กลางการท่องเที่ยว ที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือ โดยจะเน้น การพัฒนา การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงประวัติศาสตร์ และเชิงอนุรักษ์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการท่องเที่ยว แบบพิเศษ สำหรับบรรดานักธุรกิจ และผู้ที่มา เพื่อการสัมมนา ด้วยเช่นกัน คาดการณ์ว่า ภายในปี 2010 จำนวนนักท่องเที่ยว ที่มาเยือนกรุงฮานอย จะมีสูงถึง 7 ล้านคน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ 2-2.2 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ฮานอย มีรายได้จากการท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นประมาณ 16-18% ต่อปี

มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสินค้า สินค้าอุตสาหกรรม ที่มีการแข่งขันสูง อาทิ อะไหล่อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีการสื่อสาร เครื่องจักรกล สิ่งทอ และอุตสาหกรรมอาหาร

เพื่อเป็นการรองรับ การขยายตัว ของภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรม ฮานอย จึงได้ตั้งโครงการพัฒนา พื้นที่ทางตอนเหนือ และตอนใต้ ของแม่น้ำแดงขึ้น โดยทางตอนเหนือ ขนาดของพื้นที่ ในการพัฒนาจะอยู่ที่ 3,860 ha. พื้นที่ในส่วนนี้ ถูกกำหนดให้ เป็นศูนย์กลางหลัก ด้านการเงินระดับนานาชาติ ในขณะที่พื้นที่ การพัฒนาทางตอนใต้ ซึ่งมีขนาด 7,500 ha. ถูกกำหนดให้เป็น เมืองอุตสหกรรม ศูนย์กลางทางการค้า และการลงทุน นอกจาก การพัฒนาพื้นที่ บริเวณแม่น้ำแดงแล้ว ฮานอยยังมีโครงการสร้าง ศูนย์อุตสาหกรรม ขนาดกลาง และขนาดย่อย อีกประมาณ 18-20 แห่งด้วย

ในส่วนของภาคเกษตรกรรม ฮานอย มีแผนที่จะสร้างเขตพิเศษ เพื่อการเกษตรกรรมขึ้น โดยแบ่งพื้นที่ใช้สอย ออกเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้

-พื้นที่สำหรับเพาะปลูกพืชออร์กานิค ขนาด 13,000 ha

-พื้นที่สำหรับปลูกไม้ดอก ขนาด 2,000 ha

-พื้นที่สำหรับปลูกไม้ผล ขนาด 3,000 ha

-พื้นที่สำหรับเพาะเลี้ยงสัตว์ ขนาด 4,000 ha (โดยเน้นที่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ)

ซึ่งโครงการเหล่านี้ จะตั้งอยู่ในเขต ที่ไกลตัวเมืองออกไป ได้แก่ที่ Dong Anh, Gia Lam, Soc Son, Tu Liem และ Thanh Tri

อีกหนึ่งตัวอย่าง ที่อาจเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ฮานอยเป็นเมือง ที่มีการเติบโต และความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ เมืองหนึ่งของภูมิภาค ก็คือ การเข้ามาเป็น ธนาคารเงินทุนรายใหญ่ที่สุด ในเวียดนาม ของธนาคาร HSBC โดยมีมูลค่าการลงทุน โดยรวมที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนั่นย่อมแสดงให้เห็นถึง ความเชื่อมั่น ทางด้านเศรษฐกิจ ของกรุงฮานอ ยในระดับหนึ่ง ที่มีต่อสายตา นักลงทุนต่างชาติ และหมายรวมถึง ฐานลูกค้า ที่มีมากพอ ที่จะคุ้มค่าแก่การลงทุน

ในขณะที่ โครงการทางเศรษฐกิจ เพื่อการพัฒนาเมือง กำลังเกิดขึ้นมากมาย อีกฝากมุมหนึ่ง ของเมือง กำลังเผชิญหน้ากับ ปัญหาที่พบได้บ่อยครั้ง ในเมืองใหญ่ นั่นคือ ปัญหามลภาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มลภาวะทางน้ำ จากการประมาณการ พบว่าในแต่ละวัน สิ่งปฏิกูล และของเหลว ที่ถูกปล่อย ลงสู่แม่น้ำ หลายสาย ในกรุงฮานอย มีปริมาณสูงถึง 450,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินความสามารถ ในการจัดการ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

จากสถิติ พบว่า ในช่วงสองสามปี ที่ผ่านมา ปริมาณสารอินทรีย์ ในแม่น้ำสูงขึ้นกว่า 12-59 เท่าของระดับปกติ ในขณะที่ระดับ ของสารพิษสูงขึ้น ประมาณ 1.5-9 ของระดับ มาตรฐาน ที่ทางเมืองได้วางไว้ ซึ่งสารพิษเหล่านี้ สามารถนำไปสู่ปัญหา ด้านสุขภาพของผู้คน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้ สำหรับเรื่องทางผู้บริหาร ของฮานอยเอง ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โครงการบำบัดน้ำเสีย มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว ซึ่งคงต้องติดตาม ดูกันต่อไปว่า โครงการที่ว่านี้ จะสามารถแก้ไขปัญหา ให้กับประชาชนชาวฮานอย ได้หรือไม่

สิ่งหนึ่ง ที่เห็นได้ชัด จากการพัฒนา ของฮานอยนั่นคือ การผสมผสาน และการให้ความสำคัญ ในทุกๆ ด้าน แม้เป้าหมายหลัก ของฮานอยจะอยู่ที่ การเป็นเมืองอุตสาหกรรม ที่ทันสมัยให้ได้ภายในปี 2015 แต่ฮานอย ก็ยังคงให้ความสำคัญ กับภาคเกษตรกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงด้านวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากฮานอย มีการวางแผน และระบบการจัดการ ที่รัดกุมมีประสิทธิภาพ เป้าหมายที่ฮานอยวางไว้ ทั้งในเรื่องของ ศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน รวมทั้งด้านอื่นๆ อีกมากมาย คงจะไม่ไกลเกินเอื้อม อย่างแน่นอน

ฮานอยกับตัวอย่างโครงการพัฒนา

1.Hanoi Metro Rail System

2.GMS Hanoi – Lao Cai Railways Upgrade Project

3.First Song Da – Hanoi Water Supply Project

Useful link:

http://www.vietnamtourism.com

http://www.lonelyplanet.com

http://www.visit-mekong.com

http://www.travelmedia.com

http://iexplore.nationalgeographic.com

http://www.travelvietnam.com


แหล่งข้อมูล:
http://english.vietnamnet.vn
http://www.adb.org
http://www.apec2006.vn
http://www.ven.org.vn